Movie Review and Storyline: Larry Crowne (2011)

Movie Review and Storyline: Larry Crowne (2011)

Blog Article

รีวิวหนัง Larry Crowne (2011) รักกันไว้ หัวใจบานฉ่ำ

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง

ประเภทของภาพยนตร์ : ตลก / ดราม่า / โรงแมนติก

กำหนดฉายในประเทศไทย : 4 สิงหาคม 2554

ผู้กำกับ : ทอม แฮงค์ส

นักแสดงนำโดย : ทอม แฮงค์ส ,จูเลีย โรเบิร์ตส์ , ไบรอัน แครนสตัน , ทาราจิ พี. เฮนสัน , กูกู เอ็มบาธา-รอว์ , วิลเมอร์ วัลเดอร์รามา

 

เรื่องย่อ : 

เล่าเรื่องราวของแลร์รี คราวน์ อดีตทหารเรือวัยกลางคนต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต เมื่อเขาถูกไล่ออกจากงานที่ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ เนื่องจากไม่มีวุฒิการศึกษาระดับอุดมศึกษา แม้ว่าเขาจะทำงานได้ดีและมีประสบการณ์มากมายก็ตาม หลังจากหย่าร้างและต้องอยู่คนเดียว แลร์รีพบว่าตัวเองประสบปัญหาในการหางานใหม่ และมีความเสี่ยงที่จะสูญเสียบ้านที่อาศัยอยู่ รับชมหนังฟรี เต็มเรื่อง ไม่มีโฆษณาคั่น ภาพคมชัด ระดับ HD ได้แล้ววันนี้

เพื่อนบ้านของเขา ลามาร์ แนะนำให้แลร์รีสมัครเข้าเรียนที่ East Valley Community College เพื่อพัฒนาทักษะและโอกาสในชีวิตใหม่ เนื่องจากการเงินที่จำกัด แลร์รีต้องขายรถ SUV และซื้อสกู๊ตเตอร์จากลามาร์เพื่อใช้เป็นพาหนะ เขากลายเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนที่มีชีวิตชีวาในวิทยาลัยและได้รับฉายา “แลนซ์ โคโรนา” จากเพื่อนร่วมชั้น ทาเลีย

แลร์รีลงเรียนสองวิชา ได้แก่ การพูด สอนโดย เมอร์เซเดส ไทโนต์ และเศรษฐศาสตร์ สอนโดย ดร.เอ็ด มัตสึทานิ ในช่วงเริ่มต้น เขาประสบความลำบากในวิชาการพูด โดยเฉพาะการนำเสนอหัวข้อเกี่ยวกับการทำขนมปังฝรั่งเศส ซึ่งเป็นทักษะที่เขาเคยใช้ในช่วง 20 ปีของการเป็นพ่อครัวในกองทัพเรือ อย่างไรก็ตาม เขาแสดงให้เห็นถึงความสามารถในวิชาเศรษฐศาสตร์ ซึ่งเขาเป็นหนึ่งในนักเรียนไม่กี่คนที่สามารถตอบคำถามจากการอ่านบทเรียนได้อย่างแม่นยำ

เมอร์เซเดส ผู้สอนวิชาการพูด ต้องเผชิญกับปัญหาส่วนตัวในชีวิตคู่ เธอแต่งงานกับดีน อดีตศาสตราจารย์ที่ตอนนี้กลายเป็นนักเขียนบล็อก และใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการดูหนังออนไลน์ประเภทไม่เหมาะสม ความตึงเครียดในชีวิตสมรสทำให้เธอหันไปดื่มหลังเลิกเรียน

ทาเลียชวนแลร์รีเข้าร่วมชมรมนักขี่สกู๊ตเตอร์ที่นำโดย เดลล์ กอร์โด แฟนหนุ่มของเธอ พร้อมทั้งช่วยเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ของเขา ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งบ้าน ทรงผม และการเลือกเสื้อผ้า แลร์รียังได้รับโอกาสทำงานในร้านอาหารของแฟรงก์ เพื่อนเก่าที่เคยร่วมงานกัน ซึ่งช่วยให้เขามีรายได้เสริมจากประสบการณ์การเป็นพ่อครัวของกองทัพเรือ

ชีวิตในวิทยาลัยและมิตรภาพใหม่ๆ ทำให้แลร์รีเริ่มค้นพบเป้าหมายในชีวิตอีกครั้ง พร้อมทั้งเตรียมตัวสำหรับอนาคตที่สดใสกว่าเดิม

หลังจากค่ำคืนที่แสนเลวร้ายกับดีน เมอร์เซเดสถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวที่ป้ายรถเมล์ แลร์รีและแก๊งรถสกู๊ตเตอร์ผ่านมาพบเธอเข้า เขาอาสาไปส่งเธอที่บ้าน ซึ่งเธอตอบรับด้วยความลังเล ระหว่างทาง พวกเขาเห็นดีนถูกตำรวจจับข้อหาเมาแล้วขับ เมื่อถึงบ้านของเมอร์เซเดส เธอเชิญแลร์รีให้จูบเธอ ทั้งคู่เริ่มโอบกอดกัน ก่อนที่เธอจะจูบเขาอย่างร้อนแรง แม้เธอจะต้องการมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง แต่แลร์รีปฏิเสธอย่างสุภาพ เพราะไม่ต้องการฉวยโอกาสจากสภาพมึนเมาของเธอ

รุ่งเช้า ดีนกลับมาถึงบ้านและพบว่าข้าวของทั้งหมดของเขาถูกโยนออกมาวางที่สนามหญ้าหน้าบ้าน เมอร์เซเดสตัดสินใจจบชีวิตสมรสที่ล้มเหลว และเริ่มต้นใหม่ ขณะเดียวกัน แลร์รีซึ่งตระหนักว่าการสูญเสียบ้านเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ใช้ความรู้ด้านเศรษฐศาสตร์ที่เรียนมาจัดการการยึดทรัพย์อย่างมีแผน

เมอร์เซเดสขอให้แลร์รีเก็บเหตุการณ์ในคืนนั้นไว้เป็นความลับ และยังคงเข้าใจผิดว่าเขากำลังมีความสัมพันธ์กับทาเลีย เพื่อนร่วมชั้นสาวที่อายุน้อยกว่า ความเข้าใจผิดนี้ทำให้แลร์รีผิดหวัง แต่เขากลับเลือกที่จะมุ่งมั่นในเรื่องการเรียนและการทำงานแทน

ต่อมา เมอร์เซเดสบังเอิญพบกับทาเลียที่กำลังพูดคุยกับฟรานเซส ครูสอนภาษาอังกฤษเกี่ยวกับแผนการลาออกจากวิทยาลัยเพื่อเปิดร้านขายของมือสอง เมอร์เซเดสจึงได้รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างทาเลียกับแลร์รีเป็นเพียงมิตรภาพธรรมดา ฟรานเซสยังมอบกำลังใจให้เมอร์เซเดสในการรับมือกับชีวิตหลังการหย่าร้างอีกด้วย

เมื่อถึงวันสอบปลายภาค แลร์รีได้รับมอบหมายให้กล่าวสุนทรพจน์เป็นคนสุดท้าย หัวข้อของเขาเกี่ยวกับการเดินทางรอบโลกในช่วงที่เขาอยู่ในกองทัพเรือ พร้อมทั้งเชื่อมโยงเรื่องราวของเพื่อนร่วมชั้นได้อย่างลงตัว สุนทรพจน์ของเขาได้รับเสียงปรบมืออย่างกึกก้อง และเมอร์เซเดสรู้สึกภูมิใจกับความสำเร็จของเขา เธอยังค้นพบความหลงใหลในการสอนอีกครั้ง และกลับมามีความสุขในชีวิตมากขึ้น

ไม่นานหลังจากนั้น เมอร์เซเดสและฟรานเซสมาที่ร้านอาหารของแลร์รี เธอชมว่าเขาเป็นนักเรียนที่ยอดเยี่ยม ซึ่งแลร์รีตอบกลับว่าเธอเป็นครูที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน ภาคการศึกษาถัดไปเริ่มต้น นักเรียนหลายคนลงทะเบียนเรียนวิชาเชกสเปียร์ของเมอร์เซเดส แต่แลร์รีเลือกที่จะเรียนวิชาเศรษฐศาสตร์ขั้นสูงกับดร. มัตสึทานิแทน

เมอร์เซเดสพบโน้ตจากแลร์รีติดอยู่ที่ประตูสำนักงานของเธอ เป็นคำเชิญให้ไปทานขนมปังฝรั่งเศสที่อพาร์ตเมนต์ใหม่ของเขา เธอตัดสินใจขับรถไปที่นั่น และทั้งสองได้จูบกันในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความหวังและการเริ่มต้นใหม่ในชีวิต
 

ความรู้สึกหลังจากชมภาพยนตร์ : 

หลังจากชมภาพยนตร์ "Larry Crowne" ฉันรู้สึกเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจและความอบอุ่นหัวใจ ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้เป็นเพียงการเล่าเรื่องราวของชายวัยกลางคนที่ต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงพลังของการเริ่มต้นใหม่ การปรับตัว และการค้นพบคุณค่าในตัวเองที่อาจหลงลืมไปในช่วงชีวิตที่ยุ่งเหยิง

เนื้อหาที่สร้างแรงบันดาลใจ

แลร์รีเป็นตัวแทนของผู้คนจำนวนมากที่เผชิญกับความท้าทายในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการตกงาน การเผชิญหน้ากับความไม่มั่นคงทางการเงิน หรือความโดดเดี่ยวในชีวิตส่วนตัว ภาพยนตร์เล่าเรื่องราวของเขาอย่างเรียบง่าย แต่กลับมีพลังมาก เพราะมันแสดงให้เห็นว่าความล้มเหลวไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นโอกาสในการเริ่มต้นใหม่ การตัดสินใจของแลร์รีในการกลับไปเรียนหนังสือเพื่อพัฒนาตัวเอง แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความเชื่อมั่นในศักยภาพของตัวเองที่สามารถฟื้นฟูชีวิตขึ้นมาได้

มิตรภาพและความสัมพันธ์ที่อบอุ่น

สิ่งหนึ่งที่ประทับใจมากคือบทบาทของตัวละครรองที่ช่วยสนับสนุนการเดินทางของแลร์รี ไม่ว่าจะเป็นลามาร์ เพื่อนบ้านที่แนะนำให้เขาไปเรียนต่อ ทาเลียที่นำความสดใสและมิตรภาพที่แท้จริงมาให้ หรือแม้แต่เมอร์เซเดส ครูที่มีปัญหาส่วนตัว แต่กลับพบความสุขในตัวเองผ่านความสำเร็จของนักเรียน ความสัมพันธ์ที่พวกเขาสร้างขึ้นเป็นสิ่งที่เรียบง่าย แต่กลับเติมเต็มความหมายให้กับชีวิตที่ว่างเปล่าของแลร์รี

การถ่ายทอดความสำคัญของการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิต

ภาพยนตร์ทำให้ฉันคิดถึงความสำคัญของการเรียนรู้ไม่ว่าคุณจะอยู่ในช่วงอายุใด การกลับไปเรียนหนังสือของแลร์รีไม่ใช่แค่เพื่อการทำงานหรือความก้าวหน้าในอาชีพ แต่เป็นการเติมเต็มชีวิตของเขาในด้านความรู้และประสบการณ์ใหม่ๆ นอกจากนี้ ฉากการสอนของเมอร์เซเดสยังสะท้อนให้เห็นถึงพลังของการสอนที่มาจากใจ ครูไม่ได้เป็นเพียงผู้ถ่ายทอดความรู้ แต่ยังเป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจให้นักเรียนค้นพบตัวเอง

ฉากที่น่าประทับใจที่สุด

หนึ่งในฉากที่ฉันประทับใจคือช่วงที่แลร์รีกล่าวสุนทรพจน์ในวันสอบปลายภาค ฉากนี้แสดงให้เห็นว่าเขาได้เติบโตขึ้นทั้งในด้านความมั่นใจและความสามารถ การเชื่อมโยงเรื่องราวของเพื่อนร่วมชั้นในสุนทรพจน์ของเขา ไม่เพียงแค่สะท้อนถึงการเรียนรู้ในชั้นเรียน แต่ยังแสดงถึงความเข้าใจและความเอื้อเฟื้อต่อผู้อื่น ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่น่าชื่นชม

ข้อคิดที่ได้จากภาพยนตร์

ภาพยนตร์เรื่องนี้ส่งสารสำคัญเกี่ยวกับการยอมรับการเปลี่ยนแปลง และการมีทัศนคติเชิงบวกในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ไม่ว่าเราจะเผชิญกับความท้าทายอะไร หากเราเปิดใจและมุ่งมั่นที่จะก้าวต่อไป ความสำเร็จและความสุขก็ยังเป็นสิ่งที่เราสามารถไขว่คว้ามาได้ ภาพยนตร์ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการมีมิตรภาพและการสนับสนุนซึ่งกันและกัน ซึ่งสามารถช่วยให้เราผ่านพ้นวิกฤติในชีวิตไปได้

บทสรุปความประทับใจ

โดยรวมแล้ว "Larry Crowne" เป็นภาพยนตร์ที่ดูแล้วรู้สึกอิ่มเอมใจและมีพลังในการมองชีวิตด้วยแง่มุมที่ดีขึ้น มันไม่ใช่แค่ความบันเทิง แต่เป็นการเล่าเรื่องที่กระตุ้นให้เรากลับมามองชีวิตของตัวเองและกล้าที่จะก้าวข้ามอุปสรรค ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่เพียงแต่ให้ความบันเทิง แต่ยังส่งต่อกำลังใจให้กับผู้ชมทุกคนที่กำลังเผชิญหน้ากับความยากลำบากในชีวิต ติดตามเรื่องราวทั้งหมดของหนังได้ที่ mvhd24.com ภาพคมชัด ไม่มีโฆษณาคั่น รับชมหนังฟรี ตลอด 24 ชม.

#LarryCrowne  #รักกันไว้หัวใจบานฉ่ำ  #หนังฟรี  #mvhd24  #รีวิวหนัง  #MovieReview  #MovieSpoilers

 

กลับด้านบน

Report this page